Italian food

photo-2-300x3001

อาหารอิตาเลี่ยน  (Italian food)
อาหารอิตาเลียนถูกพัฒนามาหลากหลายศตวรรษด้วยกัน ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามสังคมและการเมืองในแต่ละยุคแต่ละสมัย จนมาถึงปัจจุบัน จริง ๆ แล้วอาหารอิตาเลียนนั้นในหลาย ๆ เมนูเป็นอาหารที่ทำง่าย เตรียมวัตถุดิบไม่อยากนัก บางเมนูใช้วัตถุดิบเพียงแค่ 4-8 ชนิด ซึ่งหลักสำคัญของการทำอาหารอิตาเลียนนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพวัตถุดิบมากกว่าการปรุงอาหาร และด้วยประวัติของเมนูหลาย ๆ ชนิดที่ถูกคิดค้นจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ใช่เชฟ ทำให้อาหารอิตาเลียนเป็นอาหารที่เหมาะสมกับการทำเองที่บ้านเป็นอย่างมาก

วัตถุดิบหลักของอาหารอิตาเลียน
            อาหารอิตาเลียนมีความหลากหลายแตกต่างกันแลวแต่การนำไปใช้ ซึ่งมีทั้งผลไม้, ผัก, ซอส, เนื้อ และอื่น ๆ ซึ่งในแถบทางเหนือของอิตาลี ปลาคอด, มันฝรั่ง, ข้าว, ข้าวโพด, ไส้กรอก, เนื้อหมู และชีส เป็นวัตถุดิบหลักในการทำอาหาร

ที่มา : http://www.educatepark.com/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B5/italian-cuisine/

วัฒนธรรมไทย

ดาวน์โหลด6

                  การบูชาคุณของพระพุทธเจ้า สืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ขอน้ำฝน เชื่อมความ สมัครสมานสามัคคี แสดงการละเล่นการบูชาคุณของพระพุทธเจ้า ชาวอีสานส่วนมากนับถือพระพุทธศาสนา เมื่อถึงเทศกาลเดือน ๖ ซึ่งเป็นวันประสูติ วันตรัสรู้ และวันปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ชาวอีสานจะจัดดอกไม้ธูปเทียนมาบูชา พระพุทธรูป การทำบุญบั้งไฟของชาวอีสานถือว่าเป็นการบูชาพระพุทธเจ้าด้วยการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา เนื่องจากการทำบุญบั้งไฟ มีการบวชพระและบวชเณร ในครั้งนี้ด้วย จึงถือว่าเป็นการสืบต่อพระพุทธศาสนาการขอฝน การทำนาไม่ว่าจะเป็นของภาคใดก็ต้องอาศัยน้ำฝน ชาวอีสานก็เช่นกัน เนื่องจากมนุษย์ไม่สามารถควบคุมธรรมชาติได้ จึงมีความเชื่อเดียวกันกับสิ่งเหนือธรรมชาติจากตำนาน เรื่องเล่าของชาวอีสานเชื่อว่า มีเทพบุตรชื่อ โสกาลเทพบุตร มีหน้าที่บันดาลน้ำฝนให้ตกลงมา จึงทำบุญ บั้งไฟขอน้ำจากเทพบุตรองค์นั้นการเชื่อมความสามัคคี คนในบ้านเมืองหนึ่งที่แตกต่างกันมาอยู่รวมกัน ถ้ามิได้ทำกิจกรรม ร่วมกันก็จะมีฐานะต่างคนต่างอยู่ เมื่อบ้านเมืองเกิดความยุ่งยากจะขาดกำลังคนแก้ไข ดังนั้น เมื่อทำบุญ บั้งไฟก็จะเปิดโอกาสให้คนทั้งหลายได้มาร่วมแรงร่วมใจกันประกอบกิจกรรม สร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น ในหมู่คณะ การแสดงการละเล่น เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนมาแสดงการละเล่น คนเราเมื่อได้เล่น ได้กินร่วมกัน จะเกิดความรักใคร่ใยดีต่อกัน การเล่นบางอย่างจะสุภาพเรียบร้อย บางอย่างหยาบโลน แต่ก็ไม่ ถือสาหาความ ถือเป็นการเล่นเท่านั้น

ที่มา : http://0057.blogspot.com/2012/09/4.html

 

อาหารอีสาน

page3-8

                สภาพภูมิศาสตร์ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานมีผลต่ออาหารการกินของคนท้องถิ่นอย่างมาก เนื่องจากพื้นที่บางแห่งแห้งแล้ง วัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารซึ่งหาได้ตามธรรมชาติส่วนใหญ่ได้แก่ ปลา แมลงบางชนิด พืชผักต่างๆ การนำวิธีการถนอมอาหารมาใช้เพื่อรักษาอาหารไว้กินนานๆ..จึงเป็นส่วนสำคัญในการดำรงชีพของคนอีสาน ชาวอีสานจะมีข้าวเหนียวนึ่งเป็นอาหารหลัก เนื้อสัตว์ที่นำมาปรุงอาหารได้แก่ สัตว์ที่หามาได้ เช่น กบ เขียด แย้ แมลงต่างๆ
            ที่มาของรสชาติอาหารอีสาน เช่น รสเค็มได้จากปลาร้า รสเผ็ดได้จากพริกสดและพริกแห้งรสเปรี้ยวได้จากมะกอก ส้มมะขาม และมดแดงในอดีตคนอีสานนิยมหมักปลาร้าไว้กินเองเพราะมีปลาอุดมสมบูรณ์ ประกอบกับเป็นแหล่งเกลือสินเธาว์ ทำให้การทำปลาร้าเป็นที่แพร่หลายมาก จากปลาร้าพื้นบ้านอีสานได้มีการพัฒนาทั้งวิธีการทำและรสชาติ จนกลายเป็นตำรับปลาร้าที่ส่งขายต่างประเทศในปัจจุบัน

 

ที่มา : http://203.172.184.5/bc/web/2555/532kt3/5322014114/page1.html

Tom Yum Goong

ต้มยำกุ้ง  (Tom Yum Goong)

222

ความเป็นมา”ของต้มยำกุ้ง”

             ต้มยำกุ้ง เป็นชื่ออาหารไทยที่ทุกคนรู้จักกันดี และมีรสชาติถูกปากทั้งคนไทยและคนต่างชาติเป็นอาหารที่มีอยู่ในเมนูของภัตตาคารไทยทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นใน ประเทศไทยหรือในต่างประเทศ  เมนูต้มยำกุ้ง เป็นเมนูที่แพร่หลาย สังเกตได้จากชาวต่างชาติที่พอพูดถึงอาหารไทยเมนูต้มยำกุ้งต้องฮิตติดอันดับต้นๆในใจของหลายๆคน
การทำต้มยำกุ้ง ในระยะแรกอาจใช้น้ำปลา ใส่สมุนไพร จำพวกใบนาก ตะไคร์ ข่าแก่ ซึ้งมีวัตถุประสงค์ในการต้มคาวกุ้งหรือเนื้อสัตว์ที่ใช้ทำต้มยำ ตะไคร์ทุบเพื่อให้มีน้ำมันออกมาและเกิดกลิ่นมากกว่าการหั่นแฉลบ จะใส่เมื่อน้ำเดือด เพื่อให้ได้กลิ่นและน้ำแกงจะไม่เปลี่ยนสีเป็นสีเขียวของตะไคร์ เช่นเดียวกับข่าแก่ หั่นบางๆใส่ขณะที่น้ำแกงเดือดจะทำให้น้ำแกงเกิดความหอมใส่ก่อนใส่กุ้ง
    “ต้มยำกุ้ง” เป็นเมนูที่ฮอตฮิตอันดับ 1 ในหมู่บรรดานักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเที่ยวในประเทศไทย เมนู “ต้มยำกุ้ง”ยังถูกบรรจุลงในเมนูของร้านอาหารไทยในต่างแดนเกือบทุกร้านก็ว่าได้ แต่เมนู “ต้มยำกุ้ง “ของร้านอาหารไทยในต่างแดนนั้นถูกดัดแปลงรสชาติให้ถูกปากและมีความเป็นสากลมากขึ้นโดยการลดความเผ็ดร้อนของพริกลงแล้วปรับรสชาติให้กลมกลอมถูกปากบรรดาชาวต่างชาติและเพิ่มสีสันดัดแปลงเมนูให้มีความอินเตอร์มากขึ้นยกตัวอย่างเช่น เมนู”ข้าวผัดต้มยำกุ้ง “สปาเก็ตตี้ต้มยำกุ้ง”ซึ่งเป็นเมนู ยอดฮิตของร้านอาหารไทยในต่างแดนเลยทีเดียว

ที่มา:http://kongpakorn.blogspot.com/p/blog-page.html